ค่าธรรมเนียม ขายฝาก พร้อมข้อควรรู้ อัปเดตปี 2567

Highlights

  • ขายฝาก คือ การที่ผู้ขาย ขายทรัพย์สินให้กับผู้ซื้อ โดยผู้ขายยังคงมีสิทธิ์ในการไถ่ถอนทรัพย์สินนั้นกลับคืนได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญา

  • ค่าธรรมเนียม ขายฝาก ประกอบไปด้วย 2 ส่วนที่ต้องชำระ ได้แก่ ค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนขายฝากที่กรมที่ดิน และค่านายหน้า

  • ไถ่ถอนขายฝาก เสียค่าธรรมเนียมแปลงละ 50 บาท ค่าอากรแสตมป์ 0.5% 

  • โดยปกติ ผู้ขายฝากเป็นผู้ชำระค่าธรรมเนียม แต่สามารถตกลงกันได้ในสัญญา

  • กรณีต่อสัญญาขายฝาก ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์ที่สำนักงานที่ดินแปลงละ  50 บาท

ค่าธรรมเนียมขายฝาก ที่ต้องชำระมีอะไรบ้าง ฉบับปี 2567

สำหรับผู้ที่ต้องการขายฝากที่ดิน คำถามที่หลายคนสงสัยคงหนีไม่พ้น ขายฝากต้องเสียค่าอะไรบ้าง? โดยปกติแล้วการขายฝากที่ดิน ต้องจ่ายค่าธรรมเนียม 2 ส่วน ได้แก่ ค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนขายฝากที่กรมที่ดิน และค่านายหน้า

 ค่าธรรมเนียม การจดทะเบียนขายฝากที่กรมที่ดิน ประกอบไปด้วย

  • ค่าคำขอ : แปลงละ 5 บาท เป็นค่าธรรมเนียมในการยื่นคำขอจดทะเบียนขายฝาก

  • ค่าพยาน : 20 บาท เป็นค่าธรรมเนียมที่จ่ายให้กับพยานในการทำสัญญา

  • ค่าธรรมเนียมการโอน : คิดเป็น 2% ของราคาประเมินที่ดินหรือราคาขายฝาก ขึ้นอยู่กับว่าราคาใดสูงกว่า

  • ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ : คิดเป็น 3.3% ของราคาประเมินที่ดินหรือราคาขายฝาก โดยจะเสียในกรณีที่ถือครองที่ดินน้อยกว่า 5 ปี หรือมีชื่อในทะเบียนบ้านน้อยกว่า 1 ปี (บุคคลธรรมดาได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีขายฝากที่ดิน แบบธุรกิจเฉพาะ)

  • ค่าอากรแสตมป์ : คิดเป็น 0.5% ของราคาประเมินที่ดินหรือราคาขายฝาก ขึ้นอยู่กับว่าราคาใดสูงกว่า หากมีการเสียภาษีธุรกิจเฉพาะแล้ว จะได้รับการยกเว้นค่าอากรแสตมป์

  • ค่าธรรมเนียมจดจำนอง : คิดเป็น 1% ของจำนวนเงินกู้หรือวงเงินจำนอง

  • ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย : คำนวณตามเกณฑ์ของกรมสรรพากร ขึ้นอยู่กับจำนวนปีที่ถือครองทรัพย์สินและอัตราภาษีที่กำหนด

นอกจากค่าธรรมเนียมข้างต้นแล้วในกรณีที่จ้างนายหน้า จะต้องจ่ายค่านายหน้า เมื่อนายหน้าสามารถหาผู้รับซื้อฝากได้สำเร็จ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งค่าธรรมเนียม ขายฝาก ที่คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของราคาประเมินหรือราคาขายฝากของทรัพย์สิน โดยปกติแล้วจะคิด 5% ของยอดการขายฝาก วิธีคำนวณค่าธรรมเนียมขายฝาก ในส่วนที่ต้องให้นายหน้า เช่น ขายฝากที่ดิน 5 ล้านบาท เสียค่านายหน้า 250,000 บาท 

 

การขายฝากคืออะไร

การขายฝาก คือการที่ผู้ขาย ขายทรัพย์สินให้กับผู้ซื้อ โดยผู้ขายยังคงมีสิทธิ์ในการไถ่ถอนทรัพย์สินนั้นกลับคืนได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญา หากผู้ขายสามารถไถ่ถอนทรัพย์สินภายในระยะเวลาที่กำหนด ทรัพย์สินนั้นจะกลับคืนเป็นของผู้ขาย แต่หากไม่สามารถไถ่ถอนภายในเวลาที่กำหนด ทรัพย์สินนั้นจะกลายเป็นของผู้ซื้ออย่างถาวร ปกติแล้วการขายฝากมักใช้ในกรณีที่ผู้ขายต้องการเงินสดอย่างเร่งด่วน โดยที่ยังต้องการเก็บสิทธิ์ในการได้ทรัพย์สินนั้นคืน หากสามารถหาเงินมาไถ่ถอนได้ตามระยะเวลาที่กำหนดในสัญญา

 

ขายฝากกับจํานอง ต่างกันอย่างไร?

หลายคนมักจะสับสนระหว่างการขายฝากกับการจำนอง เนื่องจากทั้งสองอย่างเป็นการนำทรัพย์สินมาเป็นหลักประกันในการกู้ยืมเงิน แต่มีความแตกต่างกัน โดยการขายฝาก กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินจะโอนไปยังผู้รับซื้อฝากทันที แต่ผู้ขายฝากมีสิทธิ์ที่จะไถ่ถอนทรัพย์สินคืนได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด ในขณะที่การจำนอง กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินยังคงอยู่กับผู้จำนอง แต่จะถูกจำกัดสิทธิ์ในการโอนหรือจำนองทรัพย์สินนั้น

 

ขั้นตอนการขายฝาก มีอะไรบ้าง?

การขายฝาก เป็นวิธีการหนึ่งที่ใช้ในการเปลี่ยนทรัพย์สินเป็นเงินสดอย่างรวดเร็ว โดยยังคงสิทธิ์ในการไถ่ถอนทรัพย์สินกลับคืนในอนาคต สำหรับผู้ที่สนใจทำสัญญาขายฝาก ควรทราบถึงค่าธรรมเนียม ขายฝาก และขั้นตอนต่าง ๆ ในการดำเนินการ ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้

  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ : ได้แก่ ปรึกษาทนายความ เพื่อให้คำปรึกษาทางกฎหมายเกี่ยวกับสัญญาและเงื่อนไขต่าง ๆ ปรึกษานายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เพื่อช่วยประเมินราคาทรัพย์สินและหาผู้รับซื้อฝาก และปรึกษาสถาบันการเงินเพื่อขอสินเชื่อหรือปรึกษาเกี่ยวกับเงื่อนไขการชำระหนี้

  • ประเมินราคาทรัพย์สิน : ผู้เชี่ยวชาญจะทำการประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อกำหนดวงเงินกู้ที่ได้รับ

  • เตรียมเอกสาร : เตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น โฉนดที่ดิน บัตรประชาชน และทะเบียนบ้าน

  • ทำสัญญาขายฝาก : ทำสัญญาขายฝากระหว่างผู้ขายฝากและผู้รับซื้อฝาก โดยระบุรายละเอียด เช่น ราคาทรัพย์สิน ระยะเวลาในการไถ่ถอน และอัตราดอกเบี้ย

  • จดทะเบียนสัญญา : นำสัญญาไปจดทะเบียนที่กรมที่ดิน เพื่อให้สัญญามีผลทางกฎหมาย

  • รับเงิน : ผู้ขายฝากจะได้รับเงินกู้ตามจำนวนที่ตกลงกันไว้

  • ชำระหนี้ : ผู้ขายฝากต้องชำระหนี้ตามกำหนดเวลาที่ระบุในสัญญา พร้อมทั้งดอกเบี้ย

  • ไถ่ถอนทรัพย์สิน : เมื่อชำระหนี้ครบถ้วน ผู้ขายฝากสามารถไถ่ทรัพย์สินคืนได้

เอกสารที่ใช้ในการขายฝาก มีอะไรบ้าง?

นอกจากค่าธรรมเนียม ขายฝาก อีกสิ่งที่ผู้ขายทุกคนจะต้องรู้ คือเอกสารที่ต้องใช้ในการขายฝาก ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินการขายฝาก เพื่อให้การทำธุรกรรมเป็นไปอย่างราบรื่น และมีความถูกต้องตามกฎหมาย การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนจะช่วยให้กระบวนการขายฝากเสร็จสิ้นได้อย่างรวดเร็วและไม่มีปัญหา โดยควรเตรียมเอกสาร ดังนี้

  • เอกสารแสดงความเป็นเจ้าของทรัพย์สิน : เช่น โฉนดที่ดิน หรือเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์อื่น ๆ

  • บัตรประชาชนของผู้ขายและผู้ซื้อ : ใช้เพื่อยืนยันตัวตนของทั้งสองฝ่าย

  • ทะเบียนบ้านของผู้ขายและผู้ซื้อ : ใช้ตรวจสอบที่อยู่และข้อมูลส่วนตัวของทั้งสองฝ่าย

  • เอกสารการประเมินมูลค่าทรัพย์สิน : รายงานการประเมินมูลค่าทรัพย์สินเพื่อใช้ในการกำหนดราคาขายฝาก

  • สัญญาขายฝาก : เอกสารที่ร่างขึ้นโดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับทรัพย์สิน, ราคาขายฝาก, ระยะเวลาไถ่ถอน และเงื่อนไขการไถ่ถอน

  • ใบเสร็จรับเงิน : เอกสารที่แสดงการรับเงินจากการขายฝาก (ถ้ามี)

  • เอกสารการจดทะเบียนขายฝาก : เช่น แบบฟอร์มคำขอจดทะเบียนขายฝาก

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับค่าธรรมเนียม ขายฝาก

1. หากไถ่ถอนขายฝาก จะต้องเสียค่าธรรมเนียมไหม?

การไถ่ถอนขายฝาก จะต้องเสียค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์ที่สำนักงานที่ดิน ค่าธรรมเนียม ขายฝากนี้จะคิดจากมูลค่าของทรัพย์สินที่ไถ่ถอน โดยอัตราค่าธรรมเนียมจะแตกต่างกันไปตามประเภทของทรัพย์สินและมูลค่าทรัพย์สิน นอกจากนี้ อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น 

  • ค่าคำขอ : แปลงละ 5 บาท

  • ค่าอากรแสตมป์ : 0.5% ของราคาประเมินหรือราคาที่ไถ่ถอน

  • ค่าพยาน : 20 บาท

  • ค่าธรรมเนียมการทำนิติกรรม : 2% ของราคาประเมินจากสำนักงานที่ดิน หรือราคาขายฝาก

  • ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ :

    • บุคคลธรรมดา : ได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ

    • นิติบุคคล : ต้องเสียค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ

  • ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย : คิดจากราคาประเมินที่ดิน และระยะเวลาการไถ่ถอนนับจากวันที่จดทะเบียนขายฝากจนถึงวันไถ่ถอน

2. ใครเป็นคนชำระค่าธรรมเนียมขายฝาก?

อีกคำถามที่หลายคนสงสัย คือค่าธรรมเนียมขายฝาก ใครจ่าย? โดยปกติแล้ว ผู้ขายฝากจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการขายฝาก อย่างไรก็ตาม สามารถตกลงกันได้ระหว่างผู้ขายฝากและผู้รับซื้อฝากว่าใครจะเป็นผู้ชำระค่าใช้จ่ายส่วนใดบ้าง โดยอาจระบุไว้ในสัญญาขายฝาก

 

3. กรณีต่อสัญญาขายฝาก ต้องเสียค่าธรรมเนียมเท่าไร และทำอย่างไรบ้าง?

ค่าธรรมเนียมต่อสัญญาขายฝาก จะต้องเสียค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงสัญญาที่สำนักงานที่ดิน สำหรับใครที่ต้องการทราบว่าค่าธรรมเนียม ในการต่อสัญญาขายฝากที่ดินเท่าไหร่ โดยปกติ ค่าธรรมเนียมการต่อสัญญาขายฝาก มักจะคิดแปลงละ 50 บาท อย่างไรก็ตาม ค่าธรรมเนียมนี้จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสัญญาเดิม และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในสัญญาใหม่

ขั้นตอนการต่อสัญญาขายฝากโดยทั่วไป

  • ตกลงกัน : ทั้งผู้ขายฝากและผู้รับซื้อฝากต้องตกลงร่วมกันว่าจะขยายระยะเวลาการไถ่ถอน โดยทำเป็นหนังสือข้อตกลงอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร

  • เตรียมเอกสาร :

  • หนังสือแสดงสิทธิ์ในที่ดิน (โฉนด)

  • สัญญาขายฝากฉบับเดิม

  • หนังสือข้อตกลงขยายสัญญาขายฝาก (ลงนามโดยทั้งสองฝ่าย)

  • ทะเบียนบ้านและบัตรประชาชนของทั้งสองฝ่าย

  • ยื่นคำขอ : นำเอกสารทั้งหมดไปยื่นต่อเจ้าหน้าที่ที่สำนักงานที่ดิน

  • ชำระค่าธรรมเนียม : ชำระค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงสัญญา

  • รับหนังสือรับรองการจดทะเบียน : เมื่อการจดทะเบียนเสร็จสิ้น จะได้รับหนังสือรับรองการจดทะเบียนฉบับใหม่

ค่าธรรมเนียม ขายฝาก อัปเดตฉบับปี 2567 เรื่องที่ทุกคนควรให้ความสำคัญ

การทำธุรกรรมขายฝาก นอกจากตัวสัญญาแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องอีกมากมาย ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะแตกต่างกันไปตามแต่ละกรณี โดยขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทของทรัพย์สิน มูลค่าทรัพย์สิน และระยะเวลาที่ถือครองทรัพย์สิน

 

ค่าธรรมเนียมขายฝากที่ดิน 2567 ประกอบด้วยค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน, ค่าอากรแสตมป์, ภาษีธุรกิจเฉพาะ, ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย และค่าธรรมเนียมอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น ค่าประเมินราคาทรัพย์สิน ค่าทนายความ และค่านายหน้า 

 

สำหรับใครที่ยังสงสัยว่าค่าธรรมเนียมขายฝาก คิดยังไง จริง ๆ แล้วค่าธรรมเนียม ขายฝากมีการเปลี่ยนแปลงได้ จึงควรตรวจสอบข้อมูลที่เป็นปัจจุบันจากสำนักงานที่ดินในพื้นที่ที่คุณจะดำเนินการ และควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี หรือสอบถามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ที่สำนักงานสรรพากรและสำนักงานที่ดิน เพื่อให้ได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องและเหมาะสมกับกรณีของคุณ

 



บทความที่เกี่ยวข้อง: